ความสำคัญของทุนประกัน และ เบี้ยประกัน ต่างกันอย่างไร
เคยสงสัยกันไหมว่า ทุนประกัน และ เบี้ยประกัน มีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งเรามักได้ยินคำเหล่านั้นกันเป็นประจำอยู่แล้ว ในวันนี้เราจะมาดูความแตกต่างระหว่างคำ 2 คำนี้กัน นั่นก็คือ
ทุนประกัน คือ สินไหมทดแทนที่ทางบริษัทประกันจะจ่ายให้กับผู้เอาประกัน ในกรณีที่เสียชีวิต หรือครบกำหนดตามสัญญา ซึ่งส่วนมากมูลค่าถึงหลักแสน เป็นจำนวนเงินที่คุณจะได้รับจากบริษัทประกันชีวิต ซึ่งหากเกิดในกรณีครบกำหนดสัญญา หรือเสียชีวิต ก็จะทำให้ได้ทุนประกันจากที่การทำเงื่อนไขในการรับประกัน ตั้งแต่การสมัครและตัดสินใจซื้อประกันครั้งแรก เมื่อมีทุนประกันก็ต้องมีคำว่า เบี้ยประกัน
เบี้ยประกัน คือจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายกรณีซื้อประกันกับบริษัทประกันชีวิต เพื่อทำการซื้อความคุ้มครอง โดยจ่ายเป็นงวดๆ จนครบกำหนดสัญญา หรือตามที่ตกลงในเงื่อนไขการชำระเบี้ย
ซึ่งจริงๆ แล้วการทำประกันชีวิตก็ไม่ต่างจากการซื้อประกันสินค้า รถยนต์ หรือ อาคาร โดยใช้หลักการเดียวกันคือ ลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น แตก หัก สูญเสีย และมีการชดใช้ในกรณีที่เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น
วิธีการเลือกทุนประกันชีวิต
กรมธรรม์ประกันชีวิต หมายถึงสัญญาต่างตอบแทนที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง ที่เรียกว่า “ผู้เอาประกัน” ซึ่งมีหน้าที่ที่จะต้องจ่ายเบี้ยประกันให้กับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง โดยเรียกว่า “บริษัทประกันชีวิต” และเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต หรืออยู่ครบตามสัญญาของกรมธรรม์ ทางฝ่ายตัวแทนหรือ “บริษัทประกันชีวิต” ก็มีหน้าที่ต้องจ่ายผลตอบแทนที่เรียกว่า “ทุนประกันชีวิต” โดยจะต้องมอบให้แก่ผู้เอาประกันหรือผู้รับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์นั่นเอง ซึ่งการประกันชีวิต เป็นการเฉลี่ยความเสียหาย ที่ไม่ว่าจะเป็นการตาย หรือการสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือแม้แต่การสูญเสียรายได้ในยามชรา ที่จะเกิดขึ้นจากคนหนึ่งไปยังอีกหลาย ๆ คน ซึ่งจะมีผู้รับประกัน ทำหน้าที่กระจายความเสี่ยงระหว่างผู้เอาประกันทั้งหมด จากที่ให้ผู้เอาประกันจ่ายเงินจำนวนหนึ่งในรูปของ “เบี้ยประกัน” ให้แก่ผู้รับประกันไว้สำหรับเป็นเงินกองกลาง และเมื่อผู้เอาประกันได้รับความเสียหาย หรือเสียชีวิต ก็จะทำให้ผู้รับประกันนำเงินกองกลางไปชดใช้ตามจำนวนที่ได้ตกลงกัน การวางแผนการทำประกันชีวิต ก็เพื่อเตรียมรับความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ครอบครัว หรือ ทรัพย์ สินของของคุณ รวมถึง ธุรกิจของเรา ซึ่งการวางแผนที่ดีจะช่วยบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นได้